สีผึ้งเนื้อทอง กับ ปิโตรเลียมเจลลี่ ต่างกันดังนี้
ในสมัยก่อนการ กินหมาก ถือเป็นที่นิยม และจะมีสิ่งที่คนกินหมากต้องเจอคือน้ำหมากจะหยดย้อยมาแห้งจับริมฝีปาก หากปล่อยให้น้ำหมากเกาะตามผิวปาก ปากจะแห้งตึง อีกยังต้องระวัง “ปูนดุ” ซึ่งจะกัดปากของผู้กินหมากอีกด้วย นับเป็นความฉลาดล้ำลึกของคนโบราณที่หุง “สีผึ้งทาปาก” ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว คำน่อยได้รับการถ่ายทอดและได้รับความรู้มาว่า สีผึ้งโบราณถ้าแบ่งตาม “ลักษณะของเนื้อ” ได้ 2 แบบ คือ สีผึ้งเนื้อเคลือบปาก กับ สีผึ้งเนื้อนุ่มละมุน เหมาะสำหรับไว้ใช้ทาบำรุงปากค่ะ
สีผึ้งเนื้อทอง เคลือบปากยืนหนึ่งเรื่องสมานผิวแก้ปากแห้งแตก
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อ้างอิงได้ว่า สีผึ้งทาปากได้ถูกกล่าวถึงในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ในสมัยปลายอยุธยาและในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในยุคนั้นยังไม่มีการค้นพบ ปิโตเลี่ยมเจลลี่ หรือสารสร้างเนื้อเจล ภูมิปัญญาไทยของคนในยุคนั้น จึงใช้วัตถุดิบที่หาได้จากธรรมชาติใกล้ตัว เช่น ขี้ผึ้งจากรังผึ้ง น้ำมันจากเมล็ดของต้นไม้ต่างๆ นำมาหุงสีผึ้งทาปาก โดยหุงให้มีลักษณะเนื้อเหนียว ทาแล้วเป็นเหมือนมีฟิล์มบางๆเคลือบผิวปากเอาไว้
ลักษณะของสีผึ้งเนื้อเคลือบปาก
- จะมีความเหนียว (แต่ไม่หนึบ) และมีความนุ่มกว่าเนื้อสีผึ้งแบบบำรุงหรือ ลิปบาล์ม ทั่วไป ความเหนียวที่มากกว่าช่วยจะยึดเกาะผิวปากปกป้องดูแลผิวปากได้ยาวนานกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากทั่วไป
- เนื้อของสีผึ้งจะไม่เน้นเรื่องความมันเยิ้ม ตัวเนื้อสามารถยืดเนื้อให้เป็นใยบางใสได้ โดยไม่ใช้สารเคมีเป็นตัวช่วยในการสมานเนื้อสีผึ้ง
คุณสมบัติของสีผึ้งเนื้อทอง
- เป็นสีผึ้งเคลือบปาก ที่มีสรรพคุณในการ ช่วยแก้ปากแตก ปากแห้ง ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วย
- เนื้อของสีผึ้งมีความละเอียดเหนียวนุ่ม
- สีผึ้งเนื้อทอง เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวที่ยังช่วยปกป้องปากของเราได้ในสภาพอากาศหนาวจัดระดับติดลบ
- เนื้อสีผึ้งที่เหนียว ยืดเป็นใยฟิล์มบางใสสีน้ำตาลทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ “สีผึ้งเนื้อทอง”
- มีกลิ่นหอมหวานของกำยานแท้ๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะตัว (ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแล้วบอกว่าเป็นกลิ่นกำยาน)
- ทาแล้วเคลือบเป็นเหมือนฟิล์มบางๆที่ผิวปาก
- เมื่อปากแห้งแตกเพียงทาสีผึ้งเนื้อทองบางๆก่อนนอนเพียงชั่วข้ามคืนจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง
- ใช้ทาคู่กับ สีผึ้งชมพูนุท (สีผึ้งพังแพวตำรับคำน่อย) ก่อนนอนต่อเนื่องเป็นประจำจะช่วยให้ผิวปากคล้ำลดเลือนจางลง ร่องปากตื้นขึ้น ผิวปากดูสุขภาพดีด้วย
ปิโตรเลียมเจลลี่คืออะไร
วัตถุดิบของ ปิโตรเลียมเจลลี ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 มีลักษณะเป็นของเหลว ใส ไม่มีกลิ่นได้จากกระบวนการกลั่นแยกออกจากน้ำมันดิบ ต่อมานายรอเบิร์ต เชสเซโบรห์ นักเคมีผู้เคยมีผลงานกลั่นเชื้อเพลิงจากน้ำมันจากวาฬหัวทุยมาที่เมืองนี้เพื่อศึกษาสารชนิดนี้ ได้เก็บตัวอย่างสารไปสกัดและกลั่นจนได้เจลสีอ่อนในปี ค.ศ. 1870
ส่วนผสม ของ ปิโตเลี่ยมเจลลี่
- ลิปบาล์ม ครีมทาผิว ครีมกันแดด เมคอัพ รีมูฟเวอร์
- ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ครีมนวดผม บำรุงเล็บ
- ลักษณะของ ปิโตรเลียมเจลลี นุ่ม ลื่นและเป็นมัน มีคุณสมบัติกันน้ำจึงเคลือบผิวเอาไว้
- ฟิล์มบางๆช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณและริมฝีปากได้ ความนุ่มลื่นช่วยลดการระคายเคือง ทำให้ปิโตรเลี่ยมเจลลี่ขึ้นแท่นเป็นวัตถุดิบมือวางอันดับต้นๆยอดนิยมในวงการแพทย์และผลิตภัณฑ์ความงามก็ว่าได้
ปิโตรเลียมเจลลี่ ปลอดภัยหรือไม่
ถึงแม้ว่าปิโตเลี่ยมเจลลี่จะใช้ได้สารพัดประโยชน์ แต่ปิโตรเลี่ยมเจลลี่ที่สามารถนำมาใช้กับผิวได้อย่างปลอดภัยนั้น ต้องผ่านกระบวนการกลั่นบริสุทธิ์หลายครั้ง และต้องมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าปราศจากการปนเปื้อนหรือสารพิษตกค้างจากโลหะหนักต่าง ๆ และ สามารถซึมเข้าไปในชั้นผิวหนังเราได้ ทั้งยังเป็นส่วนผสมอันตรายที่ NIH ห้ามรับประทาน ผู้บริโภคอย่างเรานั้นไม่อาจจะตรวจสอบได้เลยว่า ผลิตภัณฑ์มี่มีส่วนผสมของปิโตเลี่ยมเจลลี่ได้สกัดสารพิษพวกนี้ออกไปหมดหรือเปล่า
ความมันที่ไม่ใช่ความชุ่มชื่นของปิโตรเลียมเจลลี่
รู้หรือไม่ว่าเนื้อที่เคลือบผิวที่มีความนุ่มลื่นมันๆให้ความรู้สึกเหมือนชุ่มชื่น แต่แท้ที่จริงแล้ว ปิโตเลี่ยมเจลลี่ ไม่มีค่าความชุ่มชื่นอยู่เลย มันหน้าที่แค่เพียงช่วยกักความชุ่มชื่นอย่างเดียว และเมื่อใช้ต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่งกลับส่งผลทำให้ ผิวชะลอการผลิตน้ำมันเคลือบผิวตามธรรมชาติ ทำงานช้าลง เพราะเข้าใจว่าผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว และยังพบว่า คุณสมบัติที่เป็นฟิล์มบางๆกันน้ำ หากใช้อย่างไม่ระวังกับผิวที่เป็นแผล ความอุ่นและความชื้นที่ถูกเคลือบไว้ด้วย จะกลายเป็นที่เจริญเติบโตชั้นดีของเจ้าเชื้อรา และหากใช้กับผิวหน้าจะทำให้ผิวหายใจไม่ออกเกิดการอุดตันได้ง่าย ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามานี้จึงช่วยตอบคำถามได้ว่าทำไมลิปบาล์มหรือลิปมันที่มีส่วนผสมของปิโตเลี่ยมเจลลี่บางชนิด เมื่อใช้แรกๆแล้วดีจังเลยแต่ใช้ไปสักพักไหงปากกลับแห้งไวขึ้นต้องทาขึ้นบ่อยขึ้น ยิ่งทาแล้วยิ่งปากแห้ง
>> ริมฝีปากอวบอิ่ม ด้วยสีผึ้งคำน่อย
ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างสีผึ้งเนื้อทองกับปิโตรเลียมเจลลี่
หากลองทาทั้งสองอย่างอย่างผิวเผิน แม้จะมีลักษณะเนื้อที่คล้ายกัน ให้ความชุ่มชื่นในระยะแรกก็เหมือนกัน แต่เมื่อใช้บ่อยขึ้นนาน ในระยะขึ้นจะพบว่าแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในระยะแรกที่สีผึ้งเนื้อทองวางจำหน่าย คนที่แพ้ปิโตเลี่ยมเจลลี่สอบถามเข้ามามากมาย มี คนที่แพ้สารเคมี ต่างๆ สอบถามว่าเราได้ใช้สารเคมีเหล่านั้นในผลิตภัณฑ์ของเราหรือไม่ เราให้ความมั่นใจได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า สีผึ้งเนื้อทองใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100% ไม่ใส่ปิโตเลี่ยมเจลลี่ ไม่ใส่สารสร้างเนื้อเจลและไม่ใส่น้ำหอม ไม่ใส่อะไรก็ตามที่เสี่ยงต่อการแพ้ ของคนที่ผิวแพ้ง่าย
>> สินค้าคำน่อยทั้งหมด กดเลย
สีผึ้งคำน่อย หาซื้อที่ไหนได้บ้าง
สามารถสั่งซื้อสินค้าสีผึ้งคำน่อย ได้ดังต่อไปนี้
|
|